วันอังคารที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่3

บันทึกอนุทิน

วิชา  การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

อาจารย์ผู้สอน  อ.ตฤณ  แจ่มถิน

วันพุธที่ 28  มกราคม  2558

ครั้งที่  3  เวลาเรียน  08.30 - 12.20  น.


ความรู้ที่ได้รับในวันนี้


ในสัปดาห์นี้อาจารย์ให้วาดภาพ ดอกกุหลาบ จากที่เห็นให้เหมือน และเขียนบรรยายว่าเห็นอะไรจากภาพ ซึ่งภาพที่วาดเป็นภาพที่เห็นจากภาพจริงเด็กไม่สามารถวาดได้ แต่ครูสามารถวาดให้เด็กดูได้



ภาพที่อาจารย์นำมาให้




ภาพที่หนูวาดเอง




เข้าสู่เนื้อหาในวันนี้อาจารย์สอน "เรื่องบทบาทของครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม"

อย่างแรกที่ครูควรคำนึงถึง คือครูไม่ควรวินิจฉัยเด็ก ครูไม่มีสิทธิ์ไปบอกคนอื่นได้ว่าเด็กคนนี้มีพฤติกรรมอะไร ครูทำได้เพียงแค่ สันนิษฐาน เท่านั้น และครูไม่ควรนำไปเล่าให้เพื่อนครูด้วยกันเองฟัง เพราะจะเป็นการตีตราให้เด็กเกิดปมด้อย
 ครูไม่ควรตั้งชื่อ หรือระบุฉายาให้แก่เด็ก เพราะจะเกิดผลเสียมากกว่าผล เพราะ 100% เด็กไม่ชอบ เด็กจะรู้สึกไม่เท่าเทียมกัน
 ครูไม่ควรบอกพ่อแม่ว่าเด็กมีบางอย่างผิดปกติ เพราะพ่อแม่ทราบอยู่แล้วถึงพฤติกรรมของเด็กที่ไม่ดี และไม่ต้องการให้ครูมาย้ำถึงความไม่ดีของเด็ก แต่พ่อแม่อยากได้ยินคำชมจากครูมากกว่า


ครูทำอะไรบ้าง?


สังเกตเด็กทุกคนต้องสังเกตทั้งห้องเรียน แต่สามารถสังเกตได้เฉพาะบุคคลต้องสังเกตอย่างเป็นระบบ มีการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ เป็นช่วงๆ โดยจดบันทึกจากสิ่งที่เด็กพูดที่เป็นจริง ไม่แสดงความคิดเห็น

ข้อระวัง 


1.ต้องให้เด็กเล่นร้วมกับเพื่อน
2.ลดพฤติกรรมทำซ้ำของเด็ก
**สิ่งที่ผู่ใหญ่ทำแล้วเด็กทำถือว่าไม่เป็นปัญหา**

การบันทึกการสังเกต

1.นับอย่างง่ายๆ เช่น นับจำนวนครั้งการเกิดพฤติกรรม (จำนวนครั้งที่นิยมนับในเด็กพิเศษจะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี )
2.บันทึกต่อเนื่อง ดีที่สุด และสามารถบันทึกได้ทุกช่วง
3.บันทึกไม่ต่อเนื่อง บันทึกลงในบัตรเล็กๆ เพื่อเป็นการย้ำครู และให้ครูพี่เลี้ยงช่วยได้

การตัดสินใจ  ครูต้องตัดสินใจด้วยความระมัดระวัง

หลังจากนี้อาจารย์ยังสอนอาจารย์ได้สอนร้องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย 1 เพลง



ชื่อเพลง ฝึกกายบริหาร


ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
ฝึกกายบริหารทุกวันร่างกายแข็งแรง
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว
รูปทรงสมส่วนแคล่วคล่องว่องไว





สิ่งที่จะนำไปพัฒนาและนำไปใช้ประโยชน์


จากที่ได้เรียนในวันนี้ทำให้ได้เรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ที่เราสามารถพบเจอได้จริง เช่น เมื่อเราเข้าไปในโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนเรียนรวม ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้แก่เด็กทุกคน เราจะเห็นพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนที่แตกต่างกันไป อย่างเด็กพิเศษ เด็กก็จะแสดงพฤติกรรมที่แตกต่างไปจากเด็กปกติมาก ซึ่งสิ่งที่เราเรียนในวันนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ได้ได้เป็นอย่างดี ทำให้เราเข้าใจถึงพฤติกรรมของเด็ก และทราบพฤติกรรมที่เด็กแสดงออกมาทำให้เราสามารถยอมรับพฤติกรรมที่แตกต่างของเด็กได้ และส่งเสริมพัฒนาการของเด็กให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆได้ นอกจากนี้เรายังสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปส่งต่อแก่ผู้ปกครองทำให้ผู้ปกครองที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษเข้าใจ และยอมรับพฤติกรรมต่างๆของเด็กได้ และยังช่วยให้เด็กสามารถเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข


ประเมิน


ประเมินตนเอง  :  วันนี้มาก่อนเวลาเรียน ตั้งใจฟังอาจารย์สอนเป็นอย่างดี มีแอบคุยบ้างนิดหน่อย^^ แต่ก็จดบันทึกที่อาจารย์ยกตัวอย่างให้ดู การแต่งตัวแต่งตัวถูกระเบียบ ผมสีดำสวยงามมากค่ะ^^  บรรยากาศในห้องเรียนสนุกสนาน มีความสุขทุกครั้งที่เรียน :)


ประเมินเพื่อน : เพื่อนส่วนมากมาเรียนตรงเวลา แต่งกายถูกระเบียบกันทุกคน ตั้งใจวาดรูป และจดบันทึกกันมากๆ 


ประเมินอาจารย์ : อาจารย์แต่งกายน่ารัก ^^ เวลาสอนก็มียกตัวอย่างให้เข้าใจง่ายทุกตอน ตรงไหนไม่เข้าใจอาจารย์ก็จะไม่ปล่อยผ่าน แต่อาจารย์จะย้ำจะทวนจนกว่าจะเข้าใจ ซึ่งหนูปลื้มมากเลย เพราะครั้งหนูยังไม่ค่อยเข้าใจ อาจารย์ไม่เร่งสอนแต่เนื้อ แต่มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงๆมาเล่าให้ฟัง :)











วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกอนุทิน ครั้งที่2

บันทึกอนุทิน

วิชา  การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

อาจารย์ผู้สอน  อ.ตฤณ  แจ่มถิน

วันพุธที่ 21  มกราคม  2558

ครั้งที่  2  เวลาเรียน  08.30 - 12.20  น.



ความรู้ที่ได้รับในวันนี้



      วันนี้ก่อนจะเข้าสู่การเรียนการสอน อาจารย์ได้สอนร้องเพลงเกี่ยวกับเด็กปฐมวัย จำนวน 4 เพลง และทบทวนเพลงจากสัปดาห์ที่แล้วอีก 1 เพลง ได้แก่

  1. เพลง นม


นมเป็นอาหารดี มีคุณค่าต่อร่างกาย

ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง

ยังมีนมถี่วเหลือง ดื่มได้ดีและไม่แพง

ดื่มแล้วชื่นใจ ร่างกายแข็งแรง



2. เพลง อาบน้ำ


อาบน้ำซู่ซ่า ล้างหน้าล้างตา

ฟอกสบู่ถูตัว ชำระเหงื่อไคล

ราดน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดตัว

อย่าให้ขุ่นมัว สุขกายสบายใจ


**อาจารย์ยกตัวอย่าง สำหรับพฤติกรรมของน้องดาวน์ซินโดรม ถ้าน้องได้ยินเสียงเพลงจากครูบ่อยๆน้องจะเคยชินและปฎิบัติกิจกรรมเองจนเป็นนิสัย โดยที่ครูไม่ต้องบอกให้เหนื่อย น้องสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากเพลง



3. เพลง แปรงฟัน


ตื่นเช้าเราแปรงฟัน

กินอาหารแล้วเราแปรงฟัน

ก่อนนอนเราแปรงฟันฟัน

สะอาดขาวเป็นเงางาม

แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง

แปรงฟันที่ถูกวิธี ดูซิต้องแปรงขึ้นลง


**อาจารย์ยกตัวอย่าง พฤติกรรมของน้องออทิสติก ที่เป็นโรคกลัวแปรงน้องจะไม่กล้าจับแปรงสีฟัน ไม่กล้าแปรงฟัน แต่เมื่อน้องได้ร้องเพลงนี้กับครูปล่อยๆ ประมาณหนึ่งเดือน น้องมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป คือ น้องสามารถจับแปรงสีฟันได้ 



4. เพลง พี่น้องกัน


บ้านของฉันอยู่ด้วยกันมากหลาย

พ่อ แม่ ปู่ ย่า ลุ ป้า ตา ยาย

มีทั้งน้า อา พี่และน้องมากมาย

ทุกคนสุขสบาย เราเป็นพี่น้องกัน




5. เพลง มาโรงเรียน
เรามาโรงเรียน เราเขียนเราอ่าน

ครูเล่านิทานสนุกถูกใจ

เราเรียนเราเล่น เราเป็นสุขใจ

ร่าเริงแจ่มใสเมื่อมาโรงเรียน


**สำหรับเพลงพี่น้องกัน กับ เพลงมาโรงเรียน เป็นเพลงที่ยอดฮิตมากในโรงเรียนอนุบาลทุกโรงเรียน ใช้เพลงนี้ร้องให้เด็กฟังในการปฏิบัติกิจกรรม ดังนั้นเราจึงจำเป็นอย่างมากที่ต้องร้องเพลงให้เป็น


ผู้แต่ง อ.ศรีนวล รัตนสุวรรณ


*******เข้าสู่บทเรียนในวันนี้ อาจารย์สอนเรื่อง การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย...
----> การศึกษาในสังคมไทยตั้งแต่โบราณ มี 2 แบบ ได้แก่


1.การศึกษาปกติทั่วไป  สำหรับเด็กปกติ
2.การศึกษาพิเศษ  สำหรับเด็กพิเศษ แต่ในสมัยโบราณส่วนใหญ่พ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษจะไม่นิยม ให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนแต่จะให้ลูกแอบอยู่ที่บ้าน เพราะ อายว่ามีลูกไม่สมบูรณ์แบบเหมือนลูกคนอื่น  ซึ่งไม่สมควรอย่างยิ่งเพราะนอกจากเด็กจะไม่มีการศึกษาไม่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง กระบวนการทำงานของสมองไม่พัฒนาแล้ว ยังทำให้เด็กไม่มีทักษะในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นในสังคม ทำให้เด็กไม่สามารถดูแลเลี้ยงดูตนเองได้
ในปัจจุบันสังคมได้เห็นคุณค่าของเด็กพิเศษมากขึ้นจึงมีส่งเสริมเรื่องการศึกษาที่เพิ่มมาให้เพื่อดูแลเด็กพิเศษ 2 แบบ ได้แก่

1. การศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education) ซึ่งจะแยกออกเป็น 2 แบบ คือ
    1.1 การเรียนร่วมบางเวลา  ก็คือจะมีศูนย์การศึกษาพิเศษที่คัดเลือกเด็กให้เข้าไปเรียนในโรงเรียนได้ แต่แค่บางช่วงเวลาของการเรียน ของเด็กปกติเท่านั้น ส่วนใหญ่จะนิยมให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษเข้าไปเรียนร่วมกัน กับ เด็กปกติในวิชาดนตรี วิชาศิลปะ และวิชาเคลื่อนไหว เพราะหลายๆคนเชื่อว่าดนตรีสามารถบำบัดพฤติกรรมของเด็กได้เป็นอย่างดี ส่วนศิลปะและการเคลื่อนไหว ทำให้เด็กได้ผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้เด็กมีความสุขกับการเรียน เด็กพิเศษที่เข้ามาเรียน จะมีความพิการ ปานกลางถึงมาก

    1.2 การเรียนร่วมเต็มเวลา (Mainstreaming) จะมีศูนย์การศึกษาพิเศษที่คัดเลือกเด็กให้เข้าไปเรียนในโรงเรียนได้ เด็กจะได้เข้ามาเรียนในโรงเรียนร่วมกัน กับเด็กปกติแบบเต็มเวลาทั้งแต่เช้า - เย็น เหมือนเด็กปกติทั่วไป ก็เพื่อให้เด็กพิเศษได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมของเด็กปกติได้อย่างมีความสุข เด็กพิเศษที่เข้ามาเรียน จะมีความพิการน้อย

2. การศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education)

  ก็คือการศึกษาที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กปกติ เรียนร่วมกัน โดยที่เด็กพิเศษสามารถเข้าเรียนในโรงเรียนเด็กปกติได้ตั้งแต่ต้นเทอมพร้อนกัน และอยู่ในการควบคุมดูแลของทางโรงเรียน ส่วนแผนการสอนที่จัดเหมือนกันกับเด็กปกติทั่วไปทุกอย่างแต่จะมีแผนเฉพาะบุคคลเพิ่มขึ้นมา หรือ เรียกอีกหนึ่งว่า IEP ซึ่งเป็นเฉพาะบุคคลสำหรับเด็กพิเศษ


***นักทฤษฎีที่อาจารย์นำมาอ้างอิง สำหรับการเรียนการสอนครั้งนี้ คือ WILSON 

Wilson ยึดปรัชญการอยู่ร่วมกันโดยที่เด็กทุกคนเท่าเทียมกัน และต้องการให้เด็กอยู่ในสังคมร่วมกันกับผู้อื่นได้ ส่วนกิจกรรมที่จัดให้แก่เด็กต้องคำนึงด้วยว่า ไม่จัดให้ยากเกินไปจนเด็กพิเศษ ไม่สามารถปฎิบัติกิจกรรมได้ และไม่จัดให้ง่ายเกินไปจนเด็กปกติรู้สึกเบื่อจนไม่อยากทำกิจกรรม 

**เด็กพิเศษที่เข้าเรียนในโรงเรียนเด็กกับผู้ปกครอง จะเป็นคนเลือกโรงเรียนเองไม่ใช่โรงเรียนเลือกเด็ก 

**สิ่งที่ครูต้องคำนึงอย่างมากก็คือ" อย่าดูถูกเด็ก ให้คิดเสมอว่าเด็กทำได้ และอย่าคาดหวังเกินไป แต่ให้เชื่อว่าเด็กทำได้ "

*****หลังจากเรียนเสร็จอาจารย์ได้ทดสอบหลังเรียนจากความรู้ที่ได้รับในการเรียนในครั้งนี้*****



สิ่งที่จะนำไปพัฒนาและนำไปใช้ประโยชน์
    การเรียนในวันนี้ทั้งเนื้อหาและตัวอย่างที่อาจารย์ยกตัวอย่างให้ดู เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆในชีวิตประจำวันซึ่งทำให้เห็นว่าทุกอย่างที่เรียนเรียนความรู้ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ได้จริง กับเด็กที่อยู่ในตัวเราที่เป็นเด็กพิเศษและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปบอกต่อแก่ผู้ปกครอง เพราะผู้ปกครองบางคนไม่มีความรู้ในเรื่องของเด็กพิเศษเลย ตรงจุดนี้ดิฉันเห็นว่ามีประโยชน์และสำคัญมาก

ประเมิน

ประเมินตนเอง : การเรียนวันนี้มาเรียนก่อนเวลา แต่งกายเรียบร้อย แต่งทรงผมไม่เรียบร้อย เพราะผมเปื้อนลูกรังครึ่งหัว^^ บรรยากาศในห้องเรียนวันนี้อบอุ่นดีมีเพลงต่างกลุ่มมาเรียนด้วยทำให้รู้จักเพื่อนเพิ่มขึ้น จดบันทึกทั้งที่อาจารย์สอนและอาจารย์ยกตัวอย่าง


ประเมินเพื่อน : เพื่อนส่วนมากมาเรียนตรงเวลา สลับเวลากันมาบ้างบางคนสาย บางคนสายไปปนๆกันไป^^~ ทุกคนแต่งตัวเรียบร้อย ไม่เรียบร้อยแค่เรื่องผมเฉพาะบางคน เพื่อนทุกคนทั้งสองกลุ่มตั้งใจเรียน

ประเมินอาจารย์ : อาจารย์น่ารักสอนเข้าใจง่าย ตรงไหนไม่เข้าใจอาจารย์ก็ย้ำจนกว่าจะเข้าใจ (อาจารย์เข้าใจนักศึกษาทุกคนจริงๆ และคอยช่วยเหลือนักศึกษาทุกคน^^) เรื่องการแต่งกายอาจารย์ก็แต่งการน่ารักสไตล์หวานๆมาทุกคาบ^^ 









บันทึกอนุทิน ครั้งที่1



บันทึกอนุทิน

วิชา  การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย

อาจารย์ผู้สอน  อ.ตฤณ  แจ่มถิน

วันพุธที่ 14  มกราคม  2558

ครั้งที่  1  เวลาเรียน  08.30 - 12.20  น.





ความรู้ที่ได้รับในวันนี้

            

   

     วันนี้อาจารย์ได้เล่าประสบการณ์การไปออกค่ายอาสาของรุ่นพี่ที่ จังหวัดบุรีรัมย์ให้ฟัง เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าที่เงินไม่สามารถซื้อหามาได้ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายทั้งเรื่อง ความอดทน ความมีน้ำใจ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมไปถึงความรักความสามัคีของเพื่อนและอาจารย์ ซึ่งดิฉันคิดว่าเป็นประสบการณ์ที่ถึงแม้จะยากลำบากกว่าจะผ่านไปได้ แต่เมื่อเราสามารถผ่านไปได้วันหนึ่งลองมองย้อนกลับมามันมีความสุขมากจริงๆ เพราะโอกาสแบบนี้หายากมากๆเมื่อเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่      

     หลังจากนั้นอาจารย์ได้เฉลยข้อสอบของ วิชา การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ของภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ทำให้ได้รับความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของเด็กพิเศษจากที่เราได้ทำข้อสอบไป จากที่รู้ผิดๆได้แก้ไขความรู้ในสมองให้ถูกต้อง ทำให้หายคล่องใจในเรื่องที่สงสัย อาจารย์ได้ให้ทำใบงานประเมินความรู้ที่ได้รับจากเทอมที่แล้ว ว่ายังมีอะไรเหลืออยู่บ้างในเรื่องของเด็กพิเศษ ซึ่งทำให้เราสามารถประเมินตนเองได้จริงๆว่าความรู้ที่ได้รับของเรามีมากน้อยเพียงใด     

        นอกจากนี้อาจารย์ได้สอนร้องเพลงเกี่ยวกับเด็กปฐมวัย โดยอาจารย์ได้นำมาให้ฝึกร้องจำนวน 5 เพลง ได้แก่ 1.เพลงนม 2.เพลงแปรงฟัน 3.เพลงอาบน้ำ 4.เพลงพี่น้องกัน 5.เพลงมาโรงเรียนทั้ง 5 เพลงนี้ ผู้แต่ง คือ อ.ศรีนวล  รัตนสุวรรณ   แต่งวันนี้อาจารย์ได้สอนร้องเพลง 1 เพลงก่อน คือ เพลงนม


       เพลง  นม....

                                                  

                                          นมป็นอาหารดี                       มีคุณค่าต่อร่างกาย                                        

                                          ดื่มแล้วชื่นใจ                                ร่างกายแข็งแรง                                                     

                                ยังมีนมถั่วเหลือง                   ดื่มได้ดีและไม่แพง                             

ดื่มแล้วชื่นใจ                                 ร่างกายแข็งแรง


ตัวอย่างเพลง 



สิ่งที่จะนำไปพัฒนาและนำไปใช้ประโยชน์


    จากการเรียนในวันนี้ทำให้ได้รับประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในห้องเรียน และยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เช่น การออกค่ายอาสาของรุ่นพี่ ทำให้เราได้เตรียมความพร้อมก่อน และยังทำให้เรารู้วิธีการ กระบวนการทำงานที่แท้จริง ของการออกค่ายอาสา นอกจากนี้ในเรื่องของความรู้ก็ยังได้รับความรู้จากการเฉลยข้อสอบที่เคยสอบไปเมื่อเทอมที่แล้ว ไม่ใช้แค่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่อาจารย์ยังให้ความรู้ที่เพิ่มเติมมากขึ้นจากที่เคยรู้อีกด้วย ดิฉันคิดว่าความรู้ตรงนี้ที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย และเมื่อเราไปฝึกสอนเราก็สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้จริงๆกับเด็กในโรงเรียน ซึ่งตรงนี้ดิฉันคิดว่าเป็นความรู้ที่คุ้มค่ามาก และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้จริง


ประเมิน

ประเมินตนเอง :  การเรียนในวันนี้ตั้งแต่เข้าเรียน เข้าเรียนตรงเวลา เกินบ้างนิดหน่อยแต่ก็ยังไม่สายค่ะ แต่งกายชุดพละศึกษาของเอก (สีชมพู) ภาพรวมการแต่งกายตั้งแต่ผมถึงรองเท้าเรียบร้อยดีค่ะ บรรยากาศในชั้นเรียน ที่นั่งในห้องเรียนเปลี่ยนแปลงไป จัดเกาอี้เป็นรูปตัวยูทำให้ใกล้ชิดกับอาจารย์มากขึ้น มองเห็นอาจารย์ได้ง่ายดีค่ะ ส่วนบรรยากาศทั่วๆไปในห้องเรียนบางทีแอร์ก็เย็นบางที่แอร์ก็หนาว แต่รวมๆแล้วดีมากค่ะ เรื่องของการพูดในเทอมนี้หนูว่าหนูพูดน้อยลงมานิดนึง ^^" นะค่ะ (ยิ้มมมมม^_______^)

ประเมินเพื่อน : เพื่อนส่วนมากมาเรียนกันตรงเวลา แต่งตัวกันเรียบร้อยทุกคน ตั้งใจฟังอาจารย์กันเป็นอย่างดีให้ความร่วมมือในชั้นเรียนดีมาก ทุกความมีความสุขกับการเรียนในคาบนี้มากดูได้จากสีหน้าท่าทางของเพื่อนมีความสุขกันทุกคนเลย
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์แต่งกายสุภาพเรียบร้อย น่ารักมากค่ะ ในเรื่องการสอนอาจารย์ก็สอนได้เข้าใจตรงไหนไม่เข้าใจอาจารย์ก็จะบอก จะทบทวนให้จนกว่าจะเข้าใจ ซึ่งทำให้เห็นว่าอาจารย์ใส่ใจนักศึกษาจริงๆ จึงให้การเรียนสนุกสนานมีความสุขไม่ตึงเครียด และอยากมาเรียนอีกค่ะ